วันฉัตรมงคล: ความสำคัญ ประวัติ และการเฉลิมฉลอง
- วันฉัตรมงคลคืออะไรและสำคัญอย่างไร
- ย้อนรอยประวัติวันฉัตรมงคล
- พระราชพิธีบรมราชาภิเษก: หัวใจของวันฉัตรมงคล
- วันฉัตรมงคลในยุคปัจจุบัน
- วันฉัตรมงคล: วันแห่งความภาคภูมิใจและความผูกพัน
วันฉัตรมงคลคืออะไรและสำคัญอย่างไร
วันฉัตรมงคล เป็นวันสำคัญอย่างยิ่งสำหรับปวงชนชาวไทย เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ไทย เป็นวันที่พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี โดยทั่วไปแล้ว วันฉัตรมงคลจะตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อรำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 วันนี้ไม่ใช่แค่ วันสำคัญของไทย ที่เป็นวันหยุดราชการเท่านั้น แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งถึงความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับพสกนิกร และสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันดีงามที่สืบทอดมายาวนานใน ประเทศไทย.
ย้อนรอยประวัติวันฉัตรมงคล
ประวัติความเป็นมาของวันฉัตรมงคลนั้นมีความเป็นมายาวนาน ย้อนกลับไปได้ถึงสมัยสุโขทัย ซึ่งมีหลักฐานปรากฏในศิลาจารึกวัดศรีชุม กล่าวถึงพิธีต้อนรับประมุขของแผ่นดินอย่างยิ่งใหญ่. ในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น พิธีนี้เรียกว่า “พระราชพิธีราชาภิเษก” หรือ “พิธีราชาภิเษก” และมีการจัดเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริกทั่วพระนคร. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมแบบแผนการราชาภิเษกสมัยอยุธยาขึ้นเป็นตำรา ซึ่งใช้เป็นแบบอย่างสืบมาจนปัจจุบัน.
จุดเปลี่ยนสำคัญของวันฉัตรมงคลเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งทรงมีพระราชดำริว่า วันบรมราชาภิเษก เป็นมหามงคลสมัยที่ควรแก่การเฉลิมฉลองเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราชสมบัติ จึงทรงจัดการพระราชกุศลและพระราชทานชื่อว่า “ฉัตรมงคล” ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2393 ซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษกของพระองค์. เดิมทีพิธีฉัตรมงคลเป็นเพียงพิธีของเจ้าพนักงานที่ดูแลรักษาเครื่องราชูปโภค แต่รัชกาลที่ 4 ได้ทรงยกฐานะขึ้นเป็นงานหลวงที่มีการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญพระพุทธมนต์.
This image is a fictional image generated by GlobalTrendHub.
ความสำคัญในอดีต
ในอดีตตามโบราณราชประเพณี การขึ้นครองราชสมบัติของพระมหากษัตริย์จะยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสียก่อน. ก่อนที่จะผ่านพิธีนี้ พระนามที่ขานก็ยังคงใช้พระนามเดิม และคำสั่งก็ยังไม่เรียกว่าพระบรมราชโองการ. พิธีนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสถาปนาพระราชอำนาจและพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการ.
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีการสืบทอดและปรับเปลี่ยนมาตามยุคสมัย เช่น ในรัชกาลที่ 4 ได้ทรงนำเอาการสวมพระมหาพิชัยมงกุฎ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพิธี นอกเหนือจากพิธีสรงพระมุรธาภิเษกแบบดั้งเดิม. นอกจากนี้ ยังมีการใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งต่างๆ ทั่วราชอาณาจักรเพื่อประกอบพิธีสรงพระมุรธาภิเษก ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างพระมหากษัตริย์กับแผ่นดินและประชาชน.
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก: หัวใจของวันฉัตรมงคล
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพิธีที่มีความสำคัญและงดงาม ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ที่ผสมผสานระหว่างคติความเชื่อแบบพราหมณ์และพุทธเข้าด้วยกัน. โดยหลักๆ แล้ว พระราชพิธีจะแบ่งออกเป็นสองส่วนสำคัญคือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร.
ขั้นตอนสำคัญในพระราชพิธี
- พิธีสรงพระมุรธาภิเษก: เป็นพิธีที่พระมหากษัตริย์ทรงรับน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งต่างๆ ซึ่งรวบรวมมาจากทั่วประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความบริสุทธิ์ในการเริ่มต้นรัชสมัย.
- พิธีถวายน้ำอภิเษก: เป็นอีกหนึ่งพิธีสำคัญที่พระมหากษัตริย์ประทับบนพระที่นั่งภายใต้พระมหาเศวตฉัตร และทรงรับน้ำอภิเษกจากราชบัณฑิตและพราหมณ์จากแปดทิศ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์.
- การรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์: พระมหาราชครูพราหมณ์จะทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี เช่น พระมหาพิชัยมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี และพระแส้หางจามรีเผือก. การรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์นี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่แสดงถึงการเข้ารับตำแหน่งอย่างสมบูรณ์.
- การประกาศพระปฐมบรมราชโองการ: หลังจากทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์แล้ว พระมหากษัตริย์จะทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งเป็นถ้อยคำที่แสดงถึงพระราชปณิธานในการปกครองแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน.
นอกจากนี้ ยังมีพิธีสำคัญอื่นๆ เช่น การเสด็จออกมหาสมาคมให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทั้งทางสถลมารคและชลมารค เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี. พระราชพิธีเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่และความเชื่อมโยงระหว่างพระมหากษัตริย์กับพสกนิกร.
This image is a fictional image generated by GlobalTrendHub.
วันฉัตรมงคลในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบัน วันฉัตรมงคล วันที่ 4 พฤษภาคม ถือเป็นวันหยุดราชการเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกถึงความสำคัญของวันนี้. แม้ว่ารูปแบบการเฉลิมฉลองอาจแตกต่างไปจากในอดีต แต่ความสำคัญและความหมายของวันฉัตรมงคลยังคงเดิม.
พสกนิกรชาวไทยร่วมเฉลิมฉลองอย่างไร
ใน วันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยนิยมร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. กิจกรรมเหล่านี้รวมถึง:
- ประดับพระบรมฉายาลักษณ์และธงชาติไทยตามอาคารบ้านเรือน.
- เข้าร่วมพิธีทางศาสนาต่างๆ เช่น การทำบุญตักบาตร การถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์.
- ร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น การลงนามถวายพระพร การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ.
- รับชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีสำคัญทางโทรทัศน์.
สำหรับผมเอง การได้เห็นคนไทยพร้อมใจกันประดับธงชาติและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในวันฉัตรมงคล ทำให้รู้สึกถึงความสามัคคีและความผูกพันของคนในชาติที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นวันที่เราได้หยุดพักและหวนนึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความเสียสละของพระมหากษัตริย์ไทยแต่ละพระองค์ที่ทรงปกครองแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนเสมอมา.
วันฉัตรมงคล: วันแห่งความภาคภูมิใจและความผูกพัน
โดยสรุปแล้ว วันฉัตรมงคล เป็นมากกว่าวันหยุดราชการ เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นพิธีสำคัญที่สืบทอดมายาวนานเพื่อสถาปนาพระมหากษัตริย์ไทยอย่างสมบูรณ์. วันฉัตรมงคล คือ วันที่เตือนใจให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นเสาหลักและศูนย์รวมจิตใจของคนไทยมาทุกยุคสมัย. การได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และขั้นตอนอันศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันงดงามของไทย และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความสุขของปวงชนชาวไทยตลอดมา. วันฉัตรมงคลจึงเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจ ความกตัญญู และความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวไทย.