หักเงิน กยศ. ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการชำระหนี้
- หักเงิน กยศ. คืออะไรและทำไมถึงสำคัญ
- กลไกการหักเงิน กยศ. ผ่านนายจ้าง
- วิธีการตรวจสอบยอดหนี้ กยศ.
- การวางแผนชำระหนี้ กยศ. อย่างมีประสิทธิภาพ
- รับมือกับปัญหาการหักเงิน กยศ.
- หักเงิน กยศ. การส่งต่อโอกาสทางการศึกษา
หักเงิน กยศ. คือ กระบวนการสำคัญที่เชื่อมโยงผู้กู้ยืม กยศ. เข้ากับกองทุนเพื่อให้เกิดการชำระหนี้คืนอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนกองทุนให้สามารถดำเนินงานต่อไปและส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับรุ่นน้องได้ ในฐานะคนที่ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร ผมเห็นว่าหลายคนยังคงมีคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการหักเงิน กยศ. อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการ สถานะของผู้ถูกหัก หรือแม้กระทั่งปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้จึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจเรื่อง หักเงิน กยศ. กันให้ลึกซึ้ง เพื่อที่เราจะได้บริหารจัดการหนี้สินของเราได้อย่างถูกต้องและสบายใจ
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนทางการเงินแก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาในระดับต่างๆ ตั้งแต่ ม.ปลาย อาชีวศึกษา ไปจนถึงปริญญาตรีและปริญญาโท เงินทุนที่ กยศ. ใช้ในการปล่อยกู้ส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณแผ่นดิน แต่อีกส่วนที่สำคัญมากๆ คือเงินที่ได้รับชำระคืนจากผู้กู้รุ่นพี่ นั่นหมายความว่า การที่เราชำระหนี้คืน ไม่ใช่แค่การทำตามข้อผูกพัน แต่ยังเป็นการส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้องได้มีทุนเรียนต่อด้วย
กลไกการหักเงิน กยศ. ผ่านนายจ้าง
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าเดี๋ยวนี้ กยศ. มีระบบ หักเงินเดือน กยศ. ผ่านนายจ้างแล้ว ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นครับ ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 กำหนดให้นายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชนที่จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) (เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง) มีหน้าที่หักเงินได้ของลูกจ้างที่เป็นผู้กู้ยืม กยศ. เพื่อชำระหนี้คืนกองทุนตามจำนวนที่ กยศ. แจ้งไป แล้วนำส่งกรมสรรพากรพร้อมกับการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย กรมสรรพากรก็จะส่งต่อเงินจำนวนนั้นให้ กยศ. ต่อไป
ระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาลูกหนี้ที่เรียนจบแล้วแต่ไม่ยอมชำระหนี้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน การหักเงินเดือนทำให้การชำระหนี้มีความแน่นอนมากขึ้น และลดภาระของผู้กู้ที่ต้องไปติดต่อชำระเงินด้วยตัวเองที่ธนาคาร ส่วนนายจ้างเองก็มีหน้าที่ตามกฎหมายในการหักเงินและนำส่ง และไม่สามารถปฏิเสธการหักเงินเดือนพนักงานได้หากได้รับแจ้งจาก กยศ. อย่างเป็นทางการ
วิธีการคำนวณยอดหักเงินเดือนนั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ หรือคำพิพากษาของศาลสำหรับผู้ที่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว โดยปกติแล้ว กยศ. จะแจ้งยอดที่ต้องหักรายเดือนต่อนายจ้าง สำหรับผู้กู้ยืมที่มีงวดชำระเป็นรายปี กองทุนจะนำยอดหนี้รายปีมาเฉลี่ยเป็นรายเดือนเพื่อให้ง่ายต่อการหักผ่านเงินเดือน
This image is a fictional image generated by GlobalTrendHub.
การเปลี่ยนแปลงล่าสุดเกี่ยวกับการหักเงิน
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวและข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่ กยศ. แจ้งให้นายจ้างหักเงินเดือนลูกหนี้เพิ่มอีก 3,000 บาทต่อเดือน กยศ. ได้ชี้แจงว่า การหักเงินเพิ่มจำนวน 3,000 บาทนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป และจะใช้เฉพาะกับผู้กู้ยืมที่มีสถานะ “ค้างชำระหนี้” เท่านั้น โดยไม่รวมผู้ที่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ. แล้ว การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามหนี้เพื่อให้ผู้กู้ยืมชำระยอดค้างชำระที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากผู้กู้ยืมไม่สามารถถูกหักเงินเดือนตามจำนวนที่ กยศ. แจ้งได้ ก็สามารถติดต่อเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้
วิธีการตรวจสอบยอดหนี้ กยศ.
การทราบยอดหนี้ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการบริหารจัดการหนี้ กยศ. ซึ่งเราสามารถตรวจสอบยอดหนี้ได้หลายช่องทางครับ
- แอปพลิเคชัน กยศ. Connect: นี่เป็นช่องทางที่สะดวกและนิยมใช้มากที่สุด สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android และลงทะเบียนเข้าใช้งานเพื่อตรวจสอบข้อมูลหนี้ของตัวเองได้ รวมถึงดูยอดหนี้ที่คำนวณใหม่หลังจาก พ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้
- เว็บไซต์กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา: สามารถเข้าเว็บไซต์ www.studentloan.or.th เพื่อตรวจสอบยอดหนี้ได้เช่นกัน โดยเลือกเมนู “ตรวจสอบคำนวณยอดหนี้ใหม่” และกรอกข้อมูลตามบัตรประชาชน
- แอปพลิเคชัน ทางรัฐ: เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบยอดเงินกู้ยืมคงเหลือของ กยศ. ได้
- เครื่อง ATM/ADM ของธนาคารกรุงไทย: สามารถใช้บัตร ATM ของกรุงไทยตรวจสอบยอดหนี้ กยศ./กรอ. ปี 2555 ได้ โดยต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชนและเลขที่บัญชีเงินกู้
หลังจากชำระเงินแล้ว หากชำระผ่านช่องทางออนไลน์ ยอดหนี้จะปรับปรุงในระบบภายใน 1 วันทำการถัดไป แต่ถ้าชำระผ่านช่องทางอื่นๆ อาจใช้เวลา 2-5 วันทำการ
การวางแผนชำระหนี้ กยศ. อย่างมีประสิทธิภาพ
การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้เราสามารถชำระหนี้ กยศ. ได้อย่างราบรื่นและหมดหนี้เร็วขึ้นด้วย ผมคิดว่าการทำความเข้าใจเงื่อนไขการชำระหนี้เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก กยศ. มีระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปีหลังเรียนจบ และเริ่มชำระหนี้ในปีที่ 3 โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 15 ปี
สิ่งที่เราควรทำในการวางแผนชำระหนี้มีดังนี้:
- เช็คยอดเงินที่ต้องชำระ: ตรวจสอบยอดที่ต้องชำระรายเดือน/รายปีผ่านช่องทางต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น
- เลือกวิธีการชำระ: พิจารณาว่าจะชำระแบบรายเดือนหรือรายปีตามความเหมาะสมของการบริหารเงินของเรา การชำระรายเดือนสะดวกแต่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน ส่วนรายปีไม่มีค่าธรรมเนียมแต่ต้องเตรียมเงินก้อนใหญ่
- จัดสรรรายได้: แยกเงินส่วนที่ต้องจ่ายหนี้ กยศ. ออกมาในแต่ละงวด การมีวินัยเป็นสิ่งสำคัญมากตรงจุดนี้
- ชำระเกินกำหนด: หากมีกำลังทรัพย์ การชำระเงินเกินกว่ายอดที่เรียกเก็บในแต่ละงวดจะช่วยลดเงินต้นได้เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ดอกเบี้ยและระยะเวลาในการชำระหนี้ลดลงด้วย
ตาม พ.ร.บ. กยศ. ฉบับแก้ไขใหม่ มีการปรับลำดับการตัดชำระหนี้ให้เป็นคุณแก่ผู้กู้มากขึ้น โดยจะหักจากเงินต้นส่วนที่ครบกำหนดก่อน ตามด้วยดอกเบี้ย และเบี้ยปรับเป็นลำดับสุดท้าย การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้เงินต้นลดลงได้เร็วขึ้น
This image is a fictional image generated by GlobalTrendHub.
การปรับโครงสร้างหนี้
สำหรับผู้กู้ยืมที่มีปัญหาในการชำระหนี้ ไม่ต้องกังวลใจไปครับ กยศ. มีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การขอผ่อนผันหนี้ หรือการขอปรับโครงสร้างหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้สามารถช่วยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ และตาม พ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ การลดหย่อนหนี้ หรือการแปลงหนี้ใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืม ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วก็ตาม
ผู้กู้ยืมที่สนใจปรับโครงสร้างหนี้สามารถติดต่อ กยศ. ได้โดยตรง หรือลงทะเบียนขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. ได้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้จะใช้ยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ตาม พ.ร.บ. ฉบับล่าสุด และอาจช่วยปลดภาระผู้ค้ำประกันได้ด้วย
รับมือกับปัญหาการหักเงิน กยศ.
แม้ว่าระบบการหักเงินเดือนผ่านนายจ้างจะมีข้อดี แต่บางครั้งก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ เช่น ยอดที่หักไม่ตรงกับที่ควรจะเป็น หรือถูกหักเงินทั้งที่ไม่มีหนี้ค้าง
หากพบปัญหาเกี่ยวกับการหักเงิน กยศ. ผ่านนายจ้าง สิ่งแรกที่ควรทำคือ ติดต่อกองทุน กยศ. โดยตรง สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง เช่น
- สายด่วน กยศ.
- แอปพลิเคชัน กยศ. Connect
- เว็บไซต์ www.studentloan.or.th
- ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่ กยศ. จัดหาให้
หากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการหักเงินเดือน นายจ้างจะแนะนำให้พนักงานติดต่อ กยศ. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงรายละเอียด ผู้กู้ยืมสามารถยื่นคำขอปรับเพิ่ม/ลด จำนวนเงินที่หักชำระผ่านนายจ้างได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. Connect
ในกรณีที่ถูกหักเงินเพิ่ม 3,000 บาทสำหรับผู้ที่ค้างชำระ หากไม่สามารถให้หักตามจำนวนที่แจ้งได้ ควรติดต่อขอทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพราะการไม่ชำระหนี้หรือผิดนัดชำระหนี้อาจทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น และอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายได้
หักเงิน กยศ. การส่งต่อโอกาสทางการศึกษา
โดยสรุปแล้ว หักเงิน กยศ. เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการชำระหนี้ที่ช่วยให้กองทุน กยศ. สามารถดำเนินงานต่อไปได้อย่างยั่งยืน ผมในฐานะผู้ที่เคยได้รับโอกาสทางการศึกษาจาก กยศ. อยากจะเน้นย้ำว่า การชำระหนี้คืนไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามพันธะสัญญา แต่ยังเป็นการช่วยเหลือรุ่นน้องให้ได้มีโอกาสเช่นเดียวกับที่เราเคยได้รับ การทำความเข้าใจกลไกการหักเงิน การตรวจสอบยอดหนี้อย่างสม่ำเสมอ และการวางแผนการชำระหนี้ที่ดี รวมถึงการติดต่อ กยศ. หากมีปัญหา จะช่วยให้การบริหารจัดการหนี้ กยศ. ของเราเป็นไปอย่างราบรื่นและไร้กังวล การ หักเงิน กยศ. จึงไม่ใช่แค่เรื่องการเงินส่วนบุคคล แต่เป็นการร่วมกันสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับสังคมไทยต่อไปครับ